
สัตว์เลี้ยงรักษาหัวใจ เจ้าของสัตว์เลี้ยงดูเหมือนจะมีอาการเจ็บป่วยน้อยลง หรือเมื่อป่วย ก็ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ พวกเขายังจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้นและมีอาการซึมเศร้าน้อยลง การลูบตัวสุนัขหรือแมวไม่เพียงช่วยลดอัตราการเต้นของชีพจรและความดันโลหิตเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยร่างกายได้อีกด้วย หากคุณเป็นเจ้าของสุนัข แล้วเกิดมีอาการหัวใจวาย คุณจะฟื้นตัวได้ง่ายขึ้นและมีอัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น หากมีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยจะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ส่วนผู้ที่ได้รับการผ่าตัด ก็จะมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น สัตว์เลี้ยงบางตัวอาจทำหน้าที่เป็นเครื่องออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม ถ้าคุณมีสุนัขที่กระตือรือร้นสักตัว จักรยานและอุปกรณ์ออกกำลังกายของคุณคงฝุ่นจับแน่นอน เพราะมั่นใจได้เลยว่า สุนัขนั่นอยากจะให้คุณพาไปเดินวันละครั้งหรือสองครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทั้งคู่
5 วิธีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคุณ
1) ผ่อนคลายจิตใจ
สัตว์เลี้ยงช่วยให้จิตใจของคุณรู้สึกผ่อนคลายและคุณรู้สึกสงบเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกับพวกมัน คุณจะเห็นว่าสัตว์เลี้ยงนั้นชอบเมื่อคุณเล่นกับมัน และคุณเองก็ชอบที่สัตว์เลี้ยงสนุกสนาน คุณสามารถบำบัดตัวเองได้โดยทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อผ่อนคลายจิตใจ คุณสามารถนวดตัวให้สัตว์เลี้ยงของคุณ และคุณก็จะรู้สึกจิตใจสงบลงได้ หรือใช้วิธีถูมือขึ้นและลงตามร่างกายสัตว์เลี้ยง ซึ่งพวกมันก็จะรู้สึกดี และกิจกรรมนี้ก็ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ด้วย
2) ความดันโลหิตลดลง
สัตว์เลี้ยงมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะรู้สึกมีความสุขเมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงของคุณ นั่นทำให้ระดับความเครียดลดลงและคุณจะรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อคุณผ่อนคลายระดับความดันโลหิตจะลดลง เมื่ออยู่กับสัตว์เลี้ยง คุณจะคิดแต่สิ่งที่มีความสุข ในขณะที่ใช้เวลาด้วยความเพลิดเพลิน ร่างกายของคุณจะปล่อยฮอร์โมนบางตัวที่ช่วยในการลดความดันโลหิต
3) คุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
ในโรงพยาบาลบางแห่ง มีการนำสัตว์เลี้ยงเช่น แมวและสุนัข มาให้ผู้ป่วยพูดคุยและคลายเครียด มนุษย์เราใช้สัตว์เลี้ยงเพื่อการบำบัดโรคมาเป็นเวลานานแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่มักจะลังเลที่จะแบ่งปันความรู้สึกของตนเอง รวมถึงการพูดคุยแบบเปิดอกกับคนอื่น แต่พวกเขามักเปิดกว้างที่จะพูดคุยกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งพวกเขาพูดคุยได้อย่างอิสระและนี่เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ ด้วยเหตุนี้ สัตว์เลี้ยงจึงถูกนำมาใช้เพื่อบำบัดรักษาแก่ผู้ป่วยในโรงพยาบาล
4) เพิ่มความอยากอาหาร
การรับประทานอาหารร่วมกันนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าคุณรับประทานอาหารกับคนที่คุณไม่ชอบ นั่นจะทำให้คุณไม่อยากอาหารและคุณจะรู้สึกไม่อยากรับประทานอาหารนั่นแล้ว ในทางกลับกัน ถ้าคุณรับประทานอาหารกับคนที่คุณชอบจริงๆนี่สิจึงจะช่วยเพิ่มความอยากอาหารขึ้นมา มีรายงานในหลายกรณีว่าพฤติกรรมการกินของมนุษย์สามารถปรับปรุงได้ ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในห้องเดียวกัน สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะเรารู้สึกปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงของเราและสามารถรับประทานอาหารได้อย่างมีความสุข
5) การปรับปรุงความสัมพันธ์
การเลี้ยงสัตว์จะช่วยในการปรับปรุงความสัมพันธ์ของคุณกับผู้อื่น สัตว์เลี้ยงไม่ได้ตัดสินคุณด้วยเสื้อผ้าของคุณหรือโดยปัจจัยอื่นๆ ที่มนุษย์คนอื่นใช้ตัดสินคุณ คุณพัฒนาทัศนคตินี้จากการอยู่กับสัตว์เลี้ยงโดยให้เป็นห่วงเป็นใยและมีความเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้นเมื่อพบปะผู้คนใหม่ๆ คุณจะประพฤติคล้ายคลึงกัน ยาแก้แพ้ของสุนัข ซึ่งจะดึงดูดผู้คนที่ชอบตัวคุณจริงๆ เข้ามาหา
เคล็ดลับที่แท้จริงของการเยียวยาหลังการเลิกราที่โหดร้ายหรือการอกหักในรูปแบบอื่นๆ อาจเป็นแค่สุนัขหรือแมวสักตัวเท่านั้น แต่นี่ไม่ใช่คำพูดแบบเลื่อนลอย เพราะผลเชิงบวกของการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงล้วนมีรากฐานมาจากวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง ดังนั้นจงอ่านต่อเพื่อดูว่าเหตุใดการรับเลี้ยงแมวหรือสุนัข จึงอาจทำให้คุณไม่ต้องร้องไห้ตลอดเวลา
1. เปลี่ยนระดับสารเคมีในร่างกายของคุณ
ความวิตกกังวลส่งผลกระทบต่อร่างกายของคุณ แต่บางครั้งการใช้เวลาอยู่กับเพื่อนขนยาวของคุณก็สามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้พลิกกลับได้ ระดับคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดจะลดลง การมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ยังช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินของคุณ การเปลี่ยนแปลงทางเคมีเหล่านี้ช่วยบรรเทาความทุกข์ทางอารมณ์ได้ทันที
2. ทำให้คุณไม่ต้องอยู่นิ่ง
นักบำบัดจะบอกคุณว่าการออกกำลังกายสามารถช่วยบรรเทาอารมณ์บูดได้ สุนัขหรือแมวสามารถลากคุณออกจากเตียงและบังคับให้คุณเผชิญหน้ากับวันใหม่ แม้แต่การยืนให้อาหารสัตว์เลี้ยงของคุณก็อาจทำให้คุณมีแรงผลักดันเพียงพอที่จะอาบน้ำ แต่งตัว และไปทำธุระต่างๆ ได้ สุนัขและแมวทำให้วันของคุณมีค่าขึ้นเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งดีกว่าปล่อยทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์
ยิ่งไปกว่านั้น การมีส่วนร่วมกับสัตว์เลี้ยงของคุณด้วยการเล่นของเล่นหรือออกไปเดินเล่น ก็จะช่วยเพิ่มระดับ เซโรโทนินและโดพามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ให้ความรู้สึกดี มาช่วยรักษาอาการอกหักและต่อสู้กับความผิดปกติทางอารมณ์อย่างโรคซึมเศร้าและโรคไบโพลาร์
3. เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีที่สุด
ส่วนที่เลวร้ายที่สุดอย่างหนึ่งของการเลิกราที่เลวร้าย การเสียชีวิตของคนในครอบครัว หรือการบาดเจ็บอื่น ๆ คือ ความรู้สึกเหมือนคุณอยู่คนเดียว สุนัขหรือแมวไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนร่วมห้องที่คลุมเครือ พวกมันช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณมีค่าควรแก่ความรักและความเสน่หา การลุกขึ้นและใช้ชีวิตในแต่ละวันจะง่ายขึ้นถ้าคุณมีเพื่อนอยู่ข้างๆ
4. ทำให้คุณมีสังคมมากขึ้น
การอกหักมีแนวโน้มที่จะแยกคนออก บางครั้งคุณรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังเผชิญ ความเหงานี้แสดงออกมาในรูปแบบที่ผู้คนใช้เวลากับเพื่อนหรือครอบครัวน้อยลง โชคดีที่สุนัขและแมวมีพลังลับ พวกมันบังคับให้มนุษย์ออกมาจากเปลือกของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าที่แชร์รูปแมวหรือเพื่อนบ้านขอดูแลสุนัขให้คุณ การโต้ตอบทางสังคมนี้จะช่วยให้ความเศร้าคลายลง
เห็นได้ชัดว่า การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอาจจะไม่ได้ช่วยแก้ไขชีวิตของคุณได้ 100% แต่พวกมันจะช่วยให้คุณเผชิญกับความท้าทายได้ง่ายขึ้น นี่คือเหตุผลที่สุนัขและแมวกลายเป็นสัตว์ที่ช่วยเหลือทางอารมณ์
หลายๆ คนคงเคยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาก่อน และหนึ่งในบรรดาสัตว์เลี้ยงที่นิยมกันก็คือ สุนัข ซึ่งหลายคนก็คงเศร้าใจทุกครั้งที่มีการสูญเสียสัตว์เลี้ยงไป เกี่ยวกับเรื่องนี้ แอกเนส สลิกห์ เทิร์นบูลล์ นักเขียนชาวอเมริกันผู้ล่วงลับ ผู้มีผลงานโด่งดังจากนิยายอิงประวัติศาสตร์ เคยบอกว่า “Dogs’ lives are too short. Their only fault, really.” (สุนัขนั้นมีชีวิตแสนสั้นเกินไป นั่นคือข้อเสียเพียงอย่างเดียวจริงๆ) และนั่นเป็นความเสียใจเพียงครั้งเดียวที่สุนัขมอบให้